http://www.techcotruck.com
สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com

 หน้าหลัก

 รูปสินค้า

 ลงประกาศซื้อ-ขาย

 พูดคุย-แลกเปลี่ยน

 ติดต่อเรา

เฟสบุ้ค

10000 รู้ ... มิสู้ รู้ปล่อยวาง เพียงเรื่องเดียว ^.^

(อ่าน 23445/ ตอบ 343)

PP

10000 รู้ ... มิสู้ รู้ปล่อยวาง เพียงเรื่องเดียว ^.^

ข้อคิดดีๆ จาก "รอยตะปู"



เด็กน้อยคนหนึ่งอารมณ์ไม่ค่อยจะดีพ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุงและบอกเขาว่า ทุกครั้งที่ลูกรู้สึกไม่ดี โมโห หรือโกรธใครก็ตาม ให้ตอกตะปู 1 ตัวลงไปที่รั้วหลังบ้านก็แล้วกัน วันแรกผ่านไปเด็กน้อยตอกตะปูเข้าไปที่รั้วถึง 37 ตัว วันที่ 2 และ วันที่ 3 และแต่ละวันที่ผ่านไป ผ่านไปจำนวนตะปูก็ค่อยๆลดลง ลดลงๆ เพราะเด็กน้อยรู้สึกว่า การรู้จักควบคุมตัวเองให้สงบ ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ




แล้ววันหนึ่ง หลังจากที่เขาสามารถ ควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ใจเย็นมากขึ้น เขาเดินไปหาพ่อเพื่อบอกว่า เขาคิดว่าเขาไม่จำเป็นที่ต้องตอกตะปูอีกแล้ว เพราะเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว เขาสามารถควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนแล้ว



พ่อยิ้มแล้วบอกลูกชายว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ลองพิสูจน์ให้พ่อดู ทุกๆครั้งที่ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตัวเองได้ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้านที่ละ 1 ตัว วันแล้ววันเล่า เด็กชายก็ค่อยๆถอนตะปูออกทีละตัว ๆ จนในที่สุด วันหนึ่งตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออกเด็กชายดีใจมากรีบวิ่งไปบอกพ่อของเขาว่า ผมทำได้แล้วครับในที่สุดผมก็ทำได้สำเร็จ




พ่อไม่ได้พูดว่าอะไร แต่จูงมือลูกของเขาไปที่รั้วนั้น แล้วบอกลูกทำได้ดีมากทีนี้ลองมองกลับไปที่รั้วสิ เห็นมั๊ยว่ารั้วมันไม่เหมือนเดิมมันไม่เหมือนกับที่มันเคยเป็นก่อนหน้านี้ ลูกจำไว้นะ ว่าเมื่อไหร่ที่เราทำอะไรลงไปด้วยการใช้อารมณ์ สิ่งนั้นมักจะเกิดรอยแผล เหมือนกับการเอามีดไปกรีดหรือแทงใครเข้า ต่อให้ใช้คำว่า..ขอโทษ..สักกี่หนก็ไม่อาจจะลบรอยแผลหรือความเจ็บปวดที่เกิดกับเขาคนนั้นได้ ลูกจงจำคำว่า ..ขอโทษ..ไว้เสมอนะ ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เรา หรือ ไม่ก็ตามนะจำไว้อีกด้วยว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้น รอยร้าวที่เกิดขึ้นกับเขาเขาอาจจะไม่มีวันลืมมันได้......ตลอดไป



สิ่งที่สำคัญคือ รู้ทันความโกรธให้เร็วที่สุด ทันทีที่สติรู้ทันว่า เราปล่อยให้ความโกรธครอบงำ อย่างน้อยมันจะหยุดเพ่งโทษคนอื่นวางความยึดมั่นว่าเราถูกลงเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขสถานการณ์ดีกว่าปล่อยให้ความยึดว่า ตัวเองถูกเสมอ หรือฐิทิมานะมาทำลายทุกอย่างรวมทั้งชีวิตตัวเราเอง



อย่าลืมแชร์ บทความดีๆ ให้เพื่อนคุณอ่านล่ะ ^^


pp

pp

pp

pp

pp

pp

pp

pp

pp


" ถอน...ไส้ตะเกียงออก


แสงสว่างก็  ดับแล้ว


ถ้าถอนตัวเราออกจากสมมุติ อันนั้นเสียแล้ว


มันก็เหมือน  ถอนไส้ตะเกียงออก


แสงสว่างก็  ดับหมด



เราถอนตัว  ออกมา


สำคัญว่า  เป็นตัว  เป็นตน  เป็นเรา  เป็นเขา


กูดี  กูชั่ว  กูโง่  กูฉลาด  ถอนมันทิ้งเลย


อย่า...ให้มีในที่นั้น


อาการต่าง ๆ  ก็ดับไป


เหมือนกันกับ  ไส้ตะเกียง



ถอนออก...ดู


ความสว่าง  ก็หายหมด


ข้างนอก  มันอาศัยไส้ตะเกียง กับไฟเป็นอยู่


มันอาศัยตัวเราว่า  ตัวกู  ของกูนี้แหละ


ตัวเขา  ตัวเรานี้แหละ   เข้าไปหมายไว้



ถ้าสุข  ก็ว่าเราสุข


ถ้าทุกข์  ก็ว่าเราทุกข์


เป็นอะไร  ก็ว่าเราเป็นอันนั้นแหละ


เอาเรา  ไปใส่ไว้ที่นั้น นี้แหละ


มันจึงเป็นเหตุให้  เกิดทุกข์ไปรอบด้าน


เพราะ...ธรรมนั้นเป็น  อนัตตา



ไม่ใช่...เรา


เราเอา  เราเข้าไปใส่  ขืนดื้อเข้าไปใส่นี้


เรียกว่า...ประมาท



จะไปถอน ที่ไหนล่ะ ? ถอนไม่ได้


เพราะ...ไปหมายมั่นเข้าไป



ให้รู้...ตามเป็นจริง


ก็ถอนความเห็นนั้น  ออกมาเสีย


ถอนความเห็นผิด  ออกซะ


เอาความเห็นถูก  เข้าไปใส่ไว้



สงบ...


ท่านหมายถึง...ว่าง  ว่างจึงว่า  ความสงบ


สงบจาก  สุข  หรือทุกข์  อันนั้น


ที่นั้น...ว่าง


จากสุข  ทุกข์  ที่สงบหมด



เรื่องแก้ไข  ไม่มี  ที่แก้ไขมันอีก


ถึงความสงบแล้ว


หมดสังขาร  ที่จะเข้าปรุง เข้าแต่งมัน


จะปรุงแต่งได้เพราะ....มีตัว  มีตน  มีเรา  มีเขา


มีสุข  มีทุกข์  เท่านั้น



ถ้า...ถึงที่นั้นแล้ว


ไม่มี  ที่แก้ไขแล้ว  หมดที่แก้ไข


ดังนั้น  ธรรมนั้นจึงเป็นธรรมที่เป็น  ปัจจัตตัง


เวทิตัพ โพ  วิญญูหิ  วิญญูชนจะรู้ได้เฉพาะตน



เหมือนกัน  กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  หรือสาวกของ  องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า  ผู้


เข้าไปเห็นแล้ว


เป็นของรู้เฉพาะตนเอง



ธรรมนั้น  ประกาศไม่ได้


ธรรมนั้น  แสดงไม่ได้  เอาให้ไม่ได้


ธรรมนั้น  เป็นปัจจัตตัง


ใครเข้าถึงก็...เห็นเอง  รู้เอง."


_______________________________________


(หลวงพ่อชา  สุภัทโท   วัดหนองป่าพง)

http://www.techcotruck.com

pp

pp

pp


จิตแยกจากอารมณ์


การแสดงบทบาทออกไปนี่ (แสดงอาการโกรธแต่ภายนอก แต่จิตภายในไม่ได้กระเพื่อมด้วยความโกรธ) มันคล้ายๆ กับว่ามารยา ของจิต  เช่นอย่างเราสอนคนที่มันปัญญาทื่อหน่อย มันไม่จำ มัน   ไม่เข็ด มันไม่หลาบ  ก็อย่างที่เขาว่าหลวงปู่มหาบัวดุนั่นแหละ  แบบเดียวกัน(อาการปีติในสมาธิ) บางทีมันน้ำตาไหล มันร้องไห้เป็น   เสียงออกมาจริงๆ  แต่ว่าตัวร้องไห้มันก็ร้องไป ตัวนิ่งมันก็นิ่ง ลักษณะของมันจะเป็นอย่างนั้น  อันนี้เรียกว่า จิตมันรู้ทันปีติ รู้ทันอารมณ์ ปีติก็คืออารมณ์  ทีนี้ในเมื่อมีอะไรรุนแรงขึ้นมา มันก็แยกตัวพั้บ คล้ายๆ กับว่ามันท้าทายว่า อยากร้องก็ร้องไปสิ ไม่ใช่เรื่องของฉัน  ทีนี้ตัวจิตใต้สำนึกมันก็นิ่งเฉย  


อันนี้หลวงพ่อเคยร้องไห้มาแล้ว ไปสวดมนต์ในวังครั้งแรก พอไปถึงแก่งคอย ก็ไปนึกถึงว่าพ่อตายอยู่ที่ไหน จะกำหนดจิตอุทิศส่วนกุศลให้พ่อสักหน่อย  พอกำหนดไปพั้บ มองไปข้างหน้าสายตามันพร่า แล้วก็เห็นตาแก่คนหนึ่งแบกเด็กน้อยลอยผ่านหน้าไป พอลับสายตาไป จิตสำนึกก็คิดว่า พ่อแบกเรามาตั้งแต่เด็ก แล้วมันก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมาทันที  คนที่นั่งมาในรถเขาก็ถามว่า หลวงพ่อเป็นอะไร  ก็ตอบเขาว่าเฉยๆ เดี๋ยวก็รู้  พออาการอย่างนั้นหายไป  ก็เล่าให้เขาฟัง


 


ปีติมันเกิดจากกายต่างหากเล่า เช่นอย่างเรามีเรื่องขำขันนี่ เราหัวเราะจนไส้ขดไส้แข็ง เราเมื่อยเกือบตาย  เราไม่อยากหัวเราะ  แต่มันก็อดไม่ได้ นั่นคือความเป็นเองของร่างกาย อันนี้มันได้หลักมาจากว่า ภายในตัวของเรานี่สมองเป็นผู้สั่งกาย 


กองบัญชาการในสมองที่มันสั่งการออกมานี่ ให้ร่างกายมันเตี้ย ให้ร่างกายมันโต ให้ร่างกายมันสูงโย่งอย่างพระสูงที่วัดสะพานสูง อันนี้เป็นเรื่องของสมองทั้งนั้น  ทีนี้สมองอันนี้ คำสั่งของสมองอยู่ที่จิตดวงนี้  ทางหลักของการสะกดจิตเขาเรียกว่า


" จิตอิสระ "  จิตอิสระดวงนี้คอยบังคับดูแลและใช้เครื่องจักรกลไกต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานให้แก่เราอย่างตรงไปตรงมา


  


ถ้าพูดถึงเรื่องจิตและสรีรศาสตร์  ฝรั่งเขาศึกษาได้ละเอียดกว่าเรา  ของเราศึกษาแต่ด้านจิตด้านเดียว แต่เรื่องสรีรศาสตร์ไม่ได้ศึกษา  ก็เพียงแต่เพ่งอาการ ๓๒  แต่ไม่ได้ตีความหมายว่าอะไรเป็น  อะไรมีประโยชน์อย่างไร  ความคิดอะไรนี่ เราก็ถือว่ามาจากจิตอย่างเดียว  แต่จิตอย่างเดียวมันคิดไม่เป็น ต้องอาศัยประสาททางสมอง  เราจะรู้แจ้งเห็นชัดต่อเมื่อเราเข้าสมาธิแล้วร่างกายตัวตนหายไป จิตมันก็ได้แต่นิ่งอยู่เฉยๆ  จิตที่นิ่งอยู่เฉยๆ นี่มันรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้เหมือนกัน แต่มันพูดไม่เป็น แต่พอมาสัมพันธ์กับร่างกายพั้บ  พอรู้เห็นอะไร  มันจะพูดออกมาทันทีว่าอะไรเป็นอะไร


เทศนาธรรม  ท่านเจ้าคุณพระราชสังวรญาณ


                                (หลวงพ่อพุธ  ฐานิโย)


วัดคลองนา(วัดป่าชินรังสี)  อ.เมือง  จ.ฉะเชิงเทรา


FB : หลวงพ่อพุธ ฐานิโย อาจาริยบูชา

http://www.techcotruck.com

pp


๏ ใบไม้ 


ขณะนี้เรานั่งอยู่ในป่าที่สงบ ที่นี่ไม่มีลม ใบไม้จึงนิ่ง 


เมื่อใดที่มีลมพัด ใบไม้จึงไหวปลิว 


จิต ก็ทำนองเดียวกับใบไม้ 


เมื่อสัมผัสกับอารมณ์ 


มันก็สะเทือนไปตามธรรมชาติของจิต 


เรายิ่งรู้ธรรมะน้อยเพียงไร 


ใจก็จะรับความสะเทือนได้มากเพียงนั้น 


รู้สึกเป็นสุข ก็ตายด้วยความสุข 


รู้สึกเป็นทุกข์ ก็ตายด้วยความทุกข์อีก 


มันจะไหลไปเรื่อย ๆ 



หลวงปู่ชา สุภัทโท


ที่มา เหมือนกับใจ คล้ายกับจิต

http://www.techcotruck.com

pp

pp

Webboardแสดงความคิดเห็น
เยี่ยม   แย่   แย่   แย่   เขิน   หยอกล้อ  ตกใจ  ร้องไห้   สงสัย   ขอโทษ   หดหู่   อย่าน่ะ   ต่อว่า   โอเค
รูปภาพ
(นามสกุลไฟล์ควรเป็น [ jpg , jpeg , gif ] และไฟล์ไม่เกิน 3 MB.)
*ชื่อ
*สถานะ  
*อีเมล
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
*รหัสยืนยัน

หมายเหตุ : : กรุณากรอกข้อมูลที่มี * ทุกช่อง

view
ขนาดถังน้ำมันมาตรฐานพร้อมส่ง (Sizeมาตรฐาน)

view